“เขาคลังหน้า” เนินดินลึกลับ เมืองศรีเทพ รอวันเผยโฉม โบราณสถานขนาดใหญ่ จ.เพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ – ที่บ้านเขาคลัง หมู่ที่ 8 ตำบลคลองกระจัง อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ห่างจากเมืองโบราณศรีเทพประมาณ 10 กิโลเมตร ได้มีการค้นพบพื้นที่โบราณสถานขนาดใหญ่ที่ยังไม่ผ่านการขุดแต่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่เรียกกันว่า “เขาคลังหน้า” ตั้งอยู่บริเวณเนินดินขนาดใหญ่ฝั่งซ้ายของทางหลวงหมายเลข 21 สระบุรี–หล่มสัก ใกล้โรงเรียนบ้านเกาะแก้ว สามารถเข้าถึงได้ผ่านซอยเล็ก ๆ เข้าวัดเขาคลัง

เมื่อวันพุธที่ 9 เมษายน 2568 คณะผู้บริหารระดับจังหวัดนำโดย นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ เบญจพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด, นายวิทยา รัตนมณี นายอำเภอศรีเทพ, นายวีระวัฒน์ วัฒนวงศ์พฤกษ์ ที่ปรึกษานายก อบจ.เพชรบูรณ์ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ได้ลงพื้นที่สำรวจร่วมกับ กำนันประจวบ นาคเทียน กำนันตำบลคลองกระจัง ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่า พื้นที่ดังกล่าวมีร่องรอยของศิลาแลงกระจัดกระจายทั่วบริเวณและมีลักษณะผังเป็นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ อาจเทียบได้กับ “เขาคลังใน” โบราณสถานสำคัญของเมืองศรีเทพ

จากการสำรวจด้วยเทคโนโลยี LIDAR (Light Detection and Ranging) โดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ และสภาวัฒนธรรมอำเภอศรีเทพ พบว่าเนินดินแห่งนี้มีขนาดประมาณ 13 ไร่ ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน เป็นจุดที่มีโอกาสสำคัญในการศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดีเพิ่มเติมของเมืองศรีเทพ ซึ่งขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก โดยยูเนสโก

ในอดีต เคยมีการขุดค้นเพื่อหาสมบัติโดยชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่ง กำนันประจวบ ได้เล่าว่า มีการพบวัตถุล้ำค่า อาทิ ทองคำ ลูกปัด และพระพุทธรูปโบราณ ซึ่งบ่งชี้ว่า “เขาคลังหน้า” อาจเคยเป็นศาสนสถานหรือศูนย์กลางของชุมชนโบราณในยุคทวารวดี

พระภิกษุที่จำพรรษาในพื้นที่เล่าว่า ช่วงหน้าฝน น้ำฝนจะพัดพาให้เห็นแนวศิลาแลงเรียงตัวอย่างมีแบบแผน บ่งชี้ถึงโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่ซ่อนอยู่ใต้เนินดิน คล้ายกับโบราณสถาน “เขาคลังนอก” ที่ถูกขุดแต่งจนเผยโฉมอย่างอลังการในปัจจุบัน

ปัจจุบันพื้นที่ “เขาคลังหน้า” อยู่ในเขต ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์แต่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ห้ามบุกรุกหรือขุดค้นโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ

จังหวัดเพชรบูรณ์เตรียมผลักดันให้ “เขาคลังหน้า” เป็นหนึ่งใน “สามเขาคลัง” ของเมืองศรีเทพ ร่วมกับ “เขาคลังใน” และ “เขาคลังนอก” เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ การศึกษา และการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในพื้นที่ต่อไป